ไม่ใช่ Unseen แต่ถ้าเห็นแล้วจะตะลึงในความยิ่งใหญ่และสวยงาม ผมเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่า ทีลอซูน้อย หรือน้องทีลอซู อาจจะเว่อร์ไปสักนิดแต่ในสายตาของผมเห็นแล้วรู้สึกอย่างนั้น ใครจะคิดบ้างว่าน้ำตกใหญ่และสวยงามแห่งนี้จะอยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ เพียงแค่อำเภอบ้านนา จังหวัดสระบุรี ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงร้อยกว่ากิโลเมตรเท่านั้นเอง แม้แต่คนสระบุรีเองเห็นภาพแล้วยังไม่เชื่อว่าที่อำเภอบ้านนาจะมีน้ำตกใหญ่อย่างนี้ สภาพพื้นที่ของอำเภอบ้านนา ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบทำนาข้าวและมีสวนผลไม้บ้างในบางพื้นที่ แล้วมีน้ำตกใหญ่ได้อย่างไร อย่าลืมว่าสระบุรีมีพื้นที่ติดกับเขาใหญ่ ลำน้ำเขาใหญ่ส่วนหนึ่งไหลลงสู่ที่ราบที่จังหวัดปราจีนบุรีและที่นครนายก สายน้ำทางด้านทิศใต้ของเขาใหญ่ไหลลงสู่ที่ราบในเขตพื้นที่อำเภอบ้านนา จังหวัดสระบุรี ลำน้ำสายนี้ไหลผ่านไปยังมวกเหล็กลดระดับเกิดเป็นน้ำตกมวกเหล็ก น้ำตกเจ็ดสาวน้อย และน้ำตกขนาดเล็กอีกหลายจุดที่ปลายน้ำ ที่ชายขอบของเขาใหญ่สายน้ำได้เปลี่ยนระดับอย่างฉับพลันตกมาจากหน้าผาสูงชันเกิดเป็นน้ำโกรกอีดกที่สูงและสวยงาม อีกทั้งสภาพป่าบริเวณนั้นยังคงเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ระหว่างเส้นทางที่เดินยังพบเห็นร่องรอยของหมีที่ทิ้งตามต้นไม้ให้เห็นอยู่หลายจุด อีกทั้งยังมีสัตว์ป่าอีกหลายชนิดทั้งเก้ง หมู่ป่า ชะนี ฯลฯ
น้ำตกแบ่งเป็น 3 ชั้น ความสูงโดยรวม 350 เมตร แต่เราสามารถชมได้เพียงชั้นล่างสุดเท่านั้น ทางขึ้นชั้นถัดไปเป็นหน้าผาสูงชันปีนป่ายขึ้นลำบากและอันตราย ความสวยงามเต็มๆ ของน้ำตกโกรกอีดกสามารถชมได้จากทางอากาศ น้ำตกโกรกอีดกถูกพบโดยบังเอิญขณะที่ พณ. ปองพล อดิเรกสาร นั่ง ฮ. ผ่านไปยังสระบุรีได้สังเกตเห็นน้ำตกขนาดใหญ่อยู่ลึกเข้าไปในป่า หลังจากนั้นจึงจัดคณะสำรวจออกค้นหาโดยเดินตัดเข้าป่าแล้วเดินย้อนขึ้นไปตามลำน้ำจนไปสุดทางที่น้ำตกใหญ่แห่งนี้ ผมได้มีโอกาสไปเยือนน้ำตกนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เมื่อเห็นแล้วก็ทึ่งในความยิ่งใหญ่และสวยงาม หลังจากนั้นก็ได้นำภาพมานำเสนอทางเวบไซด์ ชื่อของน้ำตกโกรกอีดกจึงเริ่มคุ้นหูและคุ้นตามากขึ้นเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้าไปมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เมื่อครั้งแรกที่ไปเยือน ผมประทับใจในความสวยงามของเส้นทางเดินสู่น้ำตกโกรกอีดก ระหว่างเส้นทางมีดอกลิ้นมังกรสีส้มออกดอกเป็นกลุ่มๆ อยู่บริเวณลานหิน สวยงามมาก อีก 2 ปีถัดมากอดอกลิ้นมังกรเหล่านั้นหายไปหมดแล้ว อ่านมาถึงจุดนี้ก็อยากจะขอสักนิด หากท่านได้รู้จักน้ำตกโกรกอีดกครั้งแรกจากเวบแห่งนี้ และเกิดแรงดลบันดาลใจให้ไปเพราะข้อมูลจากเวบนี้ หากท่านไปเยือนขอความกรุณาไปแบบอนุรักษ์ อย่าเก็บพืชพรรณในป่าออกมา อย่าทิ้งขยะไว้ตามเส้นทางเดิน ถึงแม้แหล่งท่องเที่ยวจุดนี้จะมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันน้อย แต่ขยะมีทิ้งไว้มิใช่น้อย เราเที่ยวกันแบบยั่งยืนคือเที่ยวได้ตลอดกาลนานถึงรุ่นลูกรุ่นหลานโดยธรรมชาติไม่พังเพราะคนรุ่นเรา
น้ำตกโกรกอีดก อยู่ในพื้นที่การดูแลของศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า การเดินทางไปเข้าน้ำตกโกรกอีดกเป็นเส้นทางเดินป่าขึ้นเขาเข้าป่าลึกซึ่งไม่มีเส้นทางเด่นชัดดังนั้นการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกควรติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ศูยน์เจ็ดคตให้นำทางเข้าไป จ่ายค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อยแลกกับความสบายใจและปลอดภัยในการท่องเที่ยว สภาพเส้นทางเป็นธรรมชาติมากๆ จะต้องผ่านป่าผ่านลำธารหลายจุด ทรายริมลำธารเป็นโป่งผีเสื้อ ปกติจะมีฝูงผีเสื้อลงที่โป่งให้เห็นประจำ เห็ดต่างๆ ก็เยอะ มอส เฟิร์น และพืชพรรณในป่าฝนมีมากมาย เห็นแล้วสบายตาสบายใจรับรองว่าเห็นแล้วจะต้องชอบ แต่เส้นทางเดินสู่น้ำตกไม่ใช่ทางสบายๆ ต้องเดินขึ้นเขาลงห้วย ขึ้นทางชัน ปีนผ่านป่าไผ่ กว่าจะถึงก็เหนื่อยเอาการ ดังนั้นหากคิดจะไปควรเตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยนะครับ
น้ำตกสายเล็กระหว่างเส้นทางเดินเข้าน้ำตกโกรกอีดก
พืชพรรณที่พบเห็นระหว่างเส้นทางเดิน
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ มุ่งสู่จังหวัดสระบุรี ถึงสระบุรีเลี้ยวขวาไปตามถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าไปทางมวกเหล็ก ก่อนถึงมวกเหล็กบริเวณโรงงานฟูรูกาวาก่อนถึงทับกวางจะมีป้ายบอกเส้นทางไปศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า เป็นเส้นทางแยกขวาจะต้องไป U-turn กลับรถแล้วขับไปตามเส้นทางที่มีป้ายบอก ไปไม่ยากมีเส้นทางหลักทางเดียว สภาพเส้นทางเป็นทางลาดยางอย่างดีขับสบาย ระยะทางประมาณ 26 กม. หมั๊งไม่แน่ใจ ประมาณเนี้ย
แหล่งท่องเที่ยวบริเวณศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า มีลานกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำบรรยากาศดีน่าตั้งแค้มป์พักแรมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติใช้ชีวิตแบบนอนกางดินกินกลางทราย สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายก็ไม่มีปัญหาเพราะที่นี่มีบ้านพักบรรยากาศดีไว้บริการแก่นักท่องเที่ยว
จากศูนย์ฯ มีเส้นทางเดินเท้าเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกเจ็ดคต ประกอบด้วยน้ำตกหลายสายอันประกอบไปด้วยน้ำตกเจ็ดคตเหนือ น้ำตกเจ็ดคตใต้ และน้ำตกเล็กๆ อีกหลายจุดล้วนมีธรรมชาติที่สวยงามน่าไปเยี่ยมชม แต่ก่อนเคยมีกิจกรรมนั่งช้างเที่ยวธรรมชาติ ค่านั่งช้างคนละ 150 บาท ช้างจะพาเดินเข้าสู่ป่าไปชมธรรมชาติและน้ำตก แต่กิจกรรมนี้ไปไม่รอดจึงต้องยกเลิกไปเพราะไม่มีค่อยจะมีนักท่องเที่ยว ก็จะมีได้ยังไงในเมื่อชื่อยังไม่ค่อยได้ยินเลย ตอนนี้พอรู้จักกันแล้วก็ลองแวะไปเที่ยวกัน แค่สระบุรีร้อยกว่ากิโลเสียค่าน้ำมันนิดหน่อยแลกกับธรรมชาติป่าเขาน้ำตกสวยๆ ที่จะได้พบเห็นถือว่าคุ้มสุดคุ้ม แต่ถ้าจะไปกับคณะทัวร์ดอยก็ต้องคอยฟังข่าวว่าเมื่อไรจะจัดไป ปกติจะจัดไปปีละครั้งไม่ได้จัดในเชิงธุรกิจแต่จัดแบบว่าอยากไปเที่ยว
ช่วงเวลาที่เหมาะสม
โกรกอีดกมีน้ำตลอดทั้งปีแต่จะสวยมากในช่วงฤดูฝนเพราะปริมาณน้ำจะไหลเต็มหน้าผา มีน้ำตกครบทุกสาย ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ มิถุนายน- กันยายน ไปช่วงต้นฤดูฝนจะสวยกว่าเพราะพืชพรรณในป่าฝนเริ่มออก มีทั้งมอส เฟิร์น และเห็ดสวยงามมีให้ชม เห็ดแชมเปญสีชมพูสวยๆ ก็มี ผีเสื้อก็เยอะ
น้ำตกแบ่งเป็น 3 ชั้น ความสูงโดยรวม 350 เมตร แต่เราสามารถชมได้เพียงชั้นล่างสุดเท่านั้น ทางขึ้นชั้นถัดไปเป็นหน้าผาสูงชันปีนป่ายขึ้นลำบากและอันตราย ความสวยงามเต็มๆ ของน้ำตกโกรกอีดกสามารถชมได้จากทางอากาศ น้ำตกโกรกอีดกถูกพบโดยบังเอิญขณะที่ พณ. ปองพล อดิเรกสาร นั่ง ฮ. ผ่านไปยังสระบุรีได้สังเกตเห็นน้ำตกขนาดใหญ่อยู่ลึกเข้าไปในป่า หลังจากนั้นจึงจัดคณะสำรวจออกค้นหาโดยเดินตัดเข้าป่าแล้วเดินย้อนขึ้นไปตามลำน้ำจนไปสุดทางที่น้ำตกใหญ่แห่งนี้ ผมได้มีโอกาสไปเยือนน้ำตกนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เมื่อเห็นแล้วก็ทึ่งในความยิ่งใหญ่และสวยงาม หลังจากนั้นก็ได้นำภาพมานำเสนอทางเวบไซด์ ชื่อของน้ำตกโกรกอีดกจึงเริ่มคุ้นหูและคุ้นตามากขึ้นเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้าไปมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เมื่อครั้งแรกที่ไปเยือน ผมประทับใจในความสวยงามของเส้นทางเดินสู่น้ำตกโกรกอีดก ระหว่างเส้นทางมีดอกลิ้นมังกรสีส้มออกดอกเป็นกลุ่มๆ อยู่บริเวณลานหิน สวยงามมาก อีก 2 ปีถัดมากอดอกลิ้นมังกรเหล่านั้นหายไปหมดแล้ว อ่านมาถึงจุดนี้ก็อยากจะขอสักนิด หากท่านได้รู้จักน้ำตกโกรกอีดกครั้งแรกจากเวบแห่งนี้ และเกิดแรงดลบันดาลใจให้ไปเพราะข้อมูลจากเวบนี้ หากท่านไปเยือนขอความกรุณาไปแบบอนุรักษ์ อย่าเก็บพืชพรรณในป่าออกมา อย่าทิ้งขยะไว้ตามเส้นทางเดิน ถึงแม้แหล่งท่องเที่ยวจุดนี้จะมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันน้อย แต่ขยะมีทิ้งไว้มิใช่น้อย เราเที่ยวกันแบบยั่งยืนคือเที่ยวได้ตลอดกาลนานถึงรุ่นลูกรุ่นหลานโดยธรรมชาติไม่พังเพราะคนรุ่นเรา
น้ำตกโกรกอีดก อยู่ในพื้นที่การดูแลของศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า การเดินทางไปเข้าน้ำตกโกรกอีดกเป็นเส้นทางเดินป่าขึ้นเขาเข้าป่าลึกซึ่งไม่มีเส้นทางเด่นชัดดังนั้นการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกควรติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ศูยน์เจ็ดคตให้นำทางเข้าไป จ่ายค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อยแลกกับความสบายใจและปลอดภัยในการท่องเที่ยว สภาพเส้นทางเป็นธรรมชาติมากๆ จะต้องผ่านป่าผ่านลำธารหลายจุด ทรายริมลำธารเป็นโป่งผีเสื้อ ปกติจะมีฝูงผีเสื้อลงที่โป่งให้เห็นประจำ เห็ดต่างๆ ก็เยอะ มอส เฟิร์น และพืชพรรณในป่าฝนมีมากมาย เห็นแล้วสบายตาสบายใจรับรองว่าเห็นแล้วจะต้องชอบ แต่เส้นทางเดินสู่น้ำตกไม่ใช่ทางสบายๆ ต้องเดินขึ้นเขาลงห้วย ขึ้นทางชัน ปีนผ่านป่าไผ่ กว่าจะถึงก็เหนื่อยเอาการ ดังนั้นหากคิดจะไปควรเตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยนะครับ
น้ำตกสายเล็กระหว่างเส้นทางเดินเข้าน้ำตกโกรกอีดก
พืชพรรณที่พบเห็นระหว่างเส้นทางเดิน
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ มุ่งสู่จังหวัดสระบุรี ถึงสระบุรีเลี้ยวขวาไปตามถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าไปทางมวกเหล็ก ก่อนถึงมวกเหล็กบริเวณโรงงานฟูรูกาวาก่อนถึงทับกวางจะมีป้ายบอกเส้นทางไปศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า เป็นเส้นทางแยกขวาจะต้องไป U-turn กลับรถแล้วขับไปตามเส้นทางที่มีป้ายบอก ไปไม่ยากมีเส้นทางหลักทางเดียว สภาพเส้นทางเป็นทางลาดยางอย่างดีขับสบาย ระยะทางประมาณ 26 กม. หมั๊งไม่แน่ใจ ประมาณเนี้ย
แหล่งท่องเที่ยวบริเวณศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า มีลานกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำบรรยากาศดีน่าตั้งแค้มป์พักแรมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติใช้ชีวิตแบบนอนกางดินกินกลางทราย สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายก็ไม่มีปัญหาเพราะที่นี่มีบ้านพักบรรยากาศดีไว้บริการแก่นักท่องเที่ยว
จากศูนย์ฯ มีเส้นทางเดินเท้าเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกเจ็ดคต ประกอบด้วยน้ำตกหลายสายอันประกอบไปด้วยน้ำตกเจ็ดคตเหนือ น้ำตกเจ็ดคตใต้ และน้ำตกเล็กๆ อีกหลายจุดล้วนมีธรรมชาติที่สวยงามน่าไปเยี่ยมชม แต่ก่อนเคยมีกิจกรรมนั่งช้างเที่ยวธรรมชาติ ค่านั่งช้างคนละ 150 บาท ช้างจะพาเดินเข้าสู่ป่าไปชมธรรมชาติและน้ำตก แต่กิจกรรมนี้ไปไม่รอดจึงต้องยกเลิกไปเพราะไม่มีค่อยจะมีนักท่องเที่ยว ก็จะมีได้ยังไงในเมื่อชื่อยังไม่ค่อยได้ยินเลย ตอนนี้พอรู้จักกันแล้วก็ลองแวะไปเที่ยวกัน แค่สระบุรีร้อยกว่ากิโลเสียค่าน้ำมันนิดหน่อยแลกกับธรรมชาติป่าเขาน้ำตกสวยๆ ที่จะได้พบเห็นถือว่าคุ้มสุดคุ้ม แต่ถ้าจะไปกับคณะทัวร์ดอยก็ต้องคอยฟังข่าวว่าเมื่อไรจะจัดไป ปกติจะจัดไปปีละครั้งไม่ได้จัดในเชิงธุรกิจแต่จัดแบบว่าอยากไปเที่ยว
ช่วงเวลาที่เหมาะสม
โกรกอีดกมีน้ำตลอดทั้งปีแต่จะสวยมากในช่วงฤดูฝนเพราะปริมาณน้ำจะไหลเต็มหน้าผา มีน้ำตกครบทุกสาย ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ มิถุนายน- กันยายน ไปช่วงต้นฤดูฝนจะสวยกว่าเพราะพืชพรรณในป่าฝนเริ่มออก มีทั้งมอส เฟิร์น และเห็ดสวยงามมีให้ชม เห็ดแชมเปญสีชมพูสวยๆ ก็มี ผีเสื้อก็เยอะ
บทความจาก www.google.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น